Saturday, 5 May 2018

สร้างชีวิต กระบวนการพัฒนาชีวิตตนให้มีความสุข เกิดความมั่งคั่งและมั่นคง

สร้างชีวิต กระบวนการพัฒนาชีวิตตนให้มีความสุข เกิดความมั่งคั่งและมั่นคง






























        จากแนวคิดเชิงกระบวนการที่เป็นระบบ ซึ่งถูกนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานทั่วไป โดยเป็นเครื่องมือในการศึกษางานทางด้านวิทยาศาสตร์หรืองานด้านค้นคว้างานวิจัยและเป็นเครื่องมือในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน  เพื่อสร้างมาตรฐานและการปรับปรุงงานให้ดีขึ้น จากข้อดีของแนวคิดเชิงกระบวนการ จึงช่วยให้การมองภาพรวมกลไกลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะทำให้เห็นภาพของความสัมพันธ์ในแต่ละขั้นตอนว่ามีปัจจัยใดบ้างเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เราสามารถโฟกัสไปที่กระบวนการที่สร้างมูลค่าและสามารถขจัดขั้นตอนหรือสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปได้อย่างถูกต้อง จากประโยชน์และคุณค่าแนวคิดเชิงกระบวนการมีระบบ สามารถนำมาเป็นโมเดลเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เรียกว่า กระบวนการ สร้างชีวิต เข็มทิศชีวิตสร้างคน แนวคิดการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นมีความเจริญก้าวหน้าใช้ชีวิตประจำได้อย่างมีความสุข อย่างมั่งคั่งและมั่นคง




กระบวนการ สร้างชีวิต หมายถึง แนวคิดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตจากปัจุบัน ให้เปลี่ยนไปตามความต้องการที่แท้จริงของชีวิตเช่น ปัจจุบันคือคนที่เคยตื่นเช้าไปทำงานทุกวัน แต่ก็ยังมีเงินไม่พอใช้ แถมยังไม่สามารถแบ่งเวลาให้กับตนเองและครอบครัวได้ จึงพัฒนาตนเองด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการหาเงินและไลฟ์สไตล์ ให้หลุดพ้นจากวัฏจักรการทำงานประจำ ไปเช้า-เย็นกลับ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข



          คนเราทำบุญมาไม่เท่ากัน บุญในที่นี้หมายถึง ต้นทุนชีวิตที่ประกอบไปด้วยปัจจัยมากมายเช่น ฐานะทางการเงิน ทุนด้านการศึกษา ประสบการณ์ชีวิตการเรียนรู้  พรสวรรค์ ทัศนคติ ความคิดและความเชื่อมั่นในความสามารถ ฯลฯ  บางคนเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่บางคนเกิดจากครอบครัวที่ยากจน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เราสามารถสร้างมันขึ้นได้ด้วยสองมือ ถึงแม้ว่าจะต้องทำงานหนักมากกว่าคนอื่น การมีใจที่มุ่งมั่น มีความหวัง มีความเพียร ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ก็จะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินได้



          กระบวนการต่อไปจากนี้คือ วิธีการสร้างบุญให่แก่ตนเอง เป็นการพัฒนาอันมีจุดเริ่มต้นจากการเปลี่ยนความคิด ” ความคิดเปลี่ยน  การกระทำเปลี่ยน ผลลัพธ์ก็เปลี่ยน”  ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดังนั้นเราคือผู้ออกแบบรูปแบบชีวิตให้แก่ตนเอง เราคือผู้รับผิดชอบอันเกิดขึ้นจากการตัดสินใจ การเป็นคนไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตาชีวิตจะทำให้เราเป็นผู้กำชัยชนะ กระบวนการสร้างชีวิต มีขั้นตอนดังนี้







              1. ตั้งเป้าหมายชีวิต  สิ่งแรกที่เราควรให้คำมั่นสัญญากับตนเองคือ ความชัดเจนในเป้าหมายชีวิตที่ตรงความต้องการอย่างแท้จริง เพราะคนที่ทำอะไรโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้รับอะไรเป็นสิ่งตอบแทน ซึ่งเรียกว่าไร้จุดมุ่งหมาย จะทำให้สูญเสียทั่งโอกาสและสูญเสียเวลา แต่สำหรับคนมีเป้าหมายยิ่งใหญ่ จะกลายเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจ สามารถเรียกความเชื่อมั่นและมีพลังพลานุภาพจากจิตใจ เพื่อผลักดันตนเองให้กลายเป็นคนพากเพียร มีความมุ่งมานะ และลงมือทำให้บรรลุตามเป้าหมายได้ มีกำลังใจในการต่อสู่เพื่อเอาชนะปัญหาอุปสรรค โดยไม่ย่อท้อต่อความผิดพลาดและการตัดสินใจที่ล้มเหลว แต่จะใช้ความล้มเหลวเป็นบทเรียนเพื่อเรียนรู้ และทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม



              วิธีการตั้งเป้าหมายชีวิตต้องกล้าคิดการใหญ่ ต้องชี้วัดได้ มีความเป็นไปได้ สำเร็จได้และต้องกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน  การตั้งเป้าหมายแล้วจินตนาการภาพแห่งผลลัพธ์แห่งความสำเร็จเป็นเคล็ดลับการป้อนพลังเชิงบวกให้แก่จิตใต้สำนึก เทคนิคคือการเขียนเป้าหมายที่เราต้องการลงกระดาษแล้วนำไปติดข้างผนัง หลังจากนั้นมองมันทุกวัน เพื่อกระตุ้นตนเองโน้มน้าวตัวเองให้เกิดขวัญกำลังใจให้เกิดขึ้นได้จากตนเอง



             ข้อดีของจิตใต้สำนึก ที่ไม่สามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งใดเกิดขึ้นจริงหรือเป็นภาพจากจินตนาการ ดังนั้นภาพแห่งความฝันจิตสำนึกมันจะรับรู้ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตของเราแล้ว อยากให้ชีวิตตนเองเป็นอย่างไร เขียนเป้าหมายออกมาให้มากที่สุดแล้วเลือกเอาสิ่งที่เหมาะสมที่สุด






               2. สำรวจสภาพชีวิตปัจจุบัน สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ ความรู้ในการลงทุน เพื่อประเมินช่องว่างระหว่างเป้าหมายกับสิ่งที่ตนเองมีอยู่นั้นคือ บุญ ที่ตัวเราเองเป็นผู้สร้าง เริ่มต้นจากการค้นหาคุณสมบัติคนที่จะประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย  โดยการเปรียบเทียบกับคนที่เป็นโมเดลแห่งความสำเร็จในด้านต่างๆ ที่เคยได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จมาแล้ว ด้วยเทคนิคการอ่านหนังสือชีวประวัติ ฟังสัมมนา พูดคุยกับกูรูโดยตรง ฯลฯ หลังจากนั้นค้นหา จุดเด่นในตนเองที่สามารถพัฒนาให้กลายเป็นความแข็งแกร่งได้ แล้วจึงค้นหาข้อด้อยเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น



              สิ่งที่ต้องประเมินอีกอย่างคือ การประเมินอาชีพที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบันว่า มันสามารถทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่  เช่นหากต้องอิสรภาพด้านการเงิน ก็จะต้องทำงานหรือลงทุนที่สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ได้ โดยเขียนทุกอย่างลงบนกระดาษ






               3. การค้นหาวิธีการสร้างเงินหรือ การค้นหาอาชีพที่ตอบสนองต่อเป้าหมาย  เราไม่สามารถเลือกประกอบอาชีพที่ชอบได้เสมอไปเพราะอาชีพที่ชื่นชอบบางอย่างให้ค่าตอบแทนน้อยได้เงินไม่พอใช้ กลายเป็นคนที่ไม่มีอำนาจทางการเงิน ควรค้นหาอาชีพที่ใช่ที่สามารถสร้างเงินและให้อิสรภาพได้ สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นได้ แล้วค่อยไปทำอาชีพที่ชอบในภายหลัง



             จงตระหนักว่านี่คือ ตัวเราคือคนที่ต้องรับผิดชอบชีวิตใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่ใช่ ปล่อยให้สิ่งแวดล้อมอย่างมาอื่นบ่งการชีวิต ” ทำความเข้าใจกับกฎของธรรมชาติว่า คนที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพใด จะต้องเป็นคนในลำดับต้นๆของอาชีพนั้นๆ  เช่นการจะเป็นคนที่มีรายได้จากงานประจำในจำนวนมากๆ จะต้องเป็นกรรมการบริษัท ไม่ใช่กรรมกร เป็นเจ้านายไม่ใช่ ลูกน้อง แล้วถ้าจะให้ดีควรเป็นเจ้าของ ไม่ใช่ ลูกจ้าง”



            หากอาชีพที่ทำอยู่ ไม่สามารถพัฒนาให้ถึงเป้าหมายได้ ควรเปลี่ยนวิธีหรือเปลี่ยนอาชีพ เปิดใจเพื่อมองหาโอกาส แล้วเรียนรู้อาชีพใหม่ที่ใช่  กล้าเปลี่ยนแปลงชีวิตออกจาก Confront Zone ศึกษาวิธีการใหม่ๆ มองหาอาชีพที่สามารถตอบสนองเป้าหมายของชีวิตได้เช่น เรียนรู้วิธีสร้างรายได้แบบ Passive Income ซึ่งเป็นรูปแบบที่มาของรายได้อย่างหนึ่ง ที่สามารถให้อิสรภาพทางการเงินได้



             หมายเหตุ หากไม่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ แต่ต้องรู้จักการจัดการด้านการเงิน  แบ่งเงินไปลงทุนเพื่อสร้างรายได้แบบ Passive Income ซึ่งมนุษย์เงินเดือนก็สามารถทำได้ โดยเริ่มต้นจากการใช้แรงงานเพื่อแลกกับเงิน หลังจากนั้นนำเงินที่ได้ไปลงทุนซื้อทรัพย์สินเช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ สร้างบ้านคอนโดให้เช่า ฯลฯ เพื่อให้สินทรัพย์ทำงานสร้างเงิน เมื่อเงินมากกว่าค่าใช้จ่าย นั้นแหละอิสรภาพทางการเงิน






             4. ประเมินความเป็นไปได้ ของอาชีพใหม่  แม้ว่าความรู้จะเป็นยาวิเศษ แต่การไม่รู้ตนเองคือ จุดจบของชีวิต เพราะการเปลี่ยนแปลงชีวิตไม่ขึ้นอยู่ที่ใคร แต่อยู่ที่ตนเอง ดังนั้นการประเมินความเป็นไปได้ ตัวเราคือผู้ที่รู้ดีที่สุด



             คำนึงถึงบุญกรรมที่มี ประเมินจุดแข็ง-จุดด้อยของตนเองให้สอดคล้องกับเป้าหมายและสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน มองพื้นฐานของตนเอง ประเมินความสามารถและศักยภาพที่ตนเองมีอยู่ ข้อจำกัด และความเป็นไปได้



             ข้อจำกัดของเรามีหลายด้านด้วยกันเช่น  1) ข้อจำกัดด้านเวลาเราแก่เกินไปหรือไม่ สำหรับงานที่ท้าทายและมีความเสี่ยงสูง  2) เรามีพรสวรรค์เพียงพอหรือไม่ หมายถึง ความจำกัดด้านร่างกายที่ไม่สามารถแก้ไขได้เช่น อยากเป็นนักกีฬาเทนนิส แต่แขนขาพิการ 3) ข้อจำกัดด้านเงินทุน การทำธุรกิจหรือการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ต้องใช้เงินลงทุนที่สูงมาก เรามีหนทางในการหาแหล่งเงินมาลงทุนได้หรือไม่





                5. ลุยและทำอย่างตั้งใจ เมื่อได้อาชีพที่ตอบโจทย์เป้าหมายชีวิตแล้ว ควรสร้างแผนปฏิบัติ Action Plan  และที่สำคัญต้องรู้ว่าจะได้อะไร เมื่อลงมือทำในแต่ขั้นตอนจนสำเร็จ นั่นคือเป้าหมายย่อย แผนในแต่ละขั้นตอนต้องกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน เพื่อประเมินความสำเร็จในสิ่งที่กำลังทำว่า ยังเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนวิธีการได้ทันกัยสถานการณ์



               ซึ่งในแต่ละขั้นของการปฏิบัติ ต้องมีองค์ความรู้  “ การศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ในสิ่งที่กำลังลงมือทำให้แตกฉาน  ”  เคล็ดลับคือ การเลียนแบบคนประสบความสำเร็จ ทั้งแนวคิดและวิธีการลงมือทำ เป็นการคัดลอกและประยุกต์ใช้ เช่น หากจะเป็นนักลงทุนในหุ้น ต้องมีความรู้ด้านวิเคราะห์การเงิน การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน สามารถวิเคราะห์แนวโน้มด้านเทคนิค การประเมินราคาของหุ้นและรู้จังหวะการซื้อ-ขาย โดยศึกษากับกูรูหุ้น



              เมื่อมีความรู้แล้วให้ลงมือทดสอบกับของจริงได้  ลงมือทำด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ มีมานะอดทน เชื่อมั่นและศรัทธาในศักยภาพที่ตนเองมี





           6. เรียนรู้และเปลี่ยนแปลง คนที่ประสบความสำเร็จจะมองเห็นการเติบโต มีความยืดหยุ่น คิดบวกได้ทั้งสิ่งที่เป็นบวกหรือเป็นลบ ทุกๆครั้งที่ล้มเหลวพ่ายแพ้ไม่ประสบความสำเร็จ พวกเขาจะเรียนรู้จากความผิดพลาด  ใช้ความผิดพลาดกลายเป็นบทเรียน เพื่อสร้างความพร้อม สำหรับโอกาสครั้งถัดไป หากไม่ประสบความสำเร็จพวกเขาจะพัฒนาปรับปรุงแก้ไขปัญหา จะไม่จมอยู่กับปัญหา ไม่ท้อแท้สิ้นหวัง



           ประเมินในสิ่งที่ทำ หากรู้ว่าสิ่งที่ทำไม่สามารถตอบสนองต่อเป้าหมาย พวกเขาจะเปลี่ยนวิธีการ แต่ไม่เปลี่ยนเป้าหมาย





         7. ฉลองให้กับความสำเร็จ เพื่อตอกย้ำความมั่นใจ ให้ตึงตราอยู่ภายในใจ ความมั่นใจจะสร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นตนเองให้มีแรงบันดาลใจ การฉลองให้กับความสำเร็จขั้นที่หนึ่ง สามารถสร้างขวัญกำลังใจและพลักดันพลังภายใต้จิตสำนึก ให้เผชิญกับปัญหา จนไปสู่ความสำเร็จลำดับขั้นถัดไปได้



         การฉลองให้กับความสำเร็จ จะเพิ่มพลังแห่งความศรัทธาในตนเองได้มากยิ่งขึ้น เป็นการกระตุ้นพลังแห่งความกล้า กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ กล้าริเริ่มโครงการใหม่ๆ วิธีการง่ายๆคือ ทุกๆขั้นของความสำเร็จควรให้รางวัลกับตนเอง ไม่ว่าจะความสำเร็จนั้น จะเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่เช่น การเอาชนะตนเองสามารถตื่นนอนก่อน 6.00 น.ซึ่งไม่เคยทำได้มาก่อน  ด้วยซื้อของอร่อยๆ ให้กับตนเอง





               8. เป็นผู้ให้ คนรวยและดี มักจะเป็นผู้ให้ก่อนที่จะได้รับเสมอเช่น ก่อนที่จะขายสินค้าให้คนอื่น ต้องทำสินค้าที่มีคุณภาพและมีปริมาณที่เหมาะสมกับราคา จึงทำให้ผู้ซื้อยินดีที่จะจ่ายเงิน  การเป็นผู้ให้ก่อนจะได้รับสิ่งตอบแทนที่มีมูลค่ามากกว่าสิ่งของที่ให้เช่น การช่วยเหลือสังคมของบริษัทใหญ่ๆ จะทำให้ผู้บริโภคจำตราสินค้าของพวกเขาได้



                  การให้ด้วยวิธี ถ่ายทอดความสำเร็จ ก็จะสร้างความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น เพราะก่อนที่จะเป็นครูใครได้ต้องมีความรู้และมีความเชี่ยวชาญมากกว่าผู้อื่นเสมอ ผู้ให้ย่อมได้รับความสุขด้านจิตใจ ผู้ให้ย่อมได้รับการเคารพและการยกย่องชื่นชม





                9. ต้องสร้างเครือข่าย การสร้าง Connection และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่ประสบความสำเร็จ  จะทำให้ตนเองสามารถพัฒนาทักษะความสามารถให้หลากหลายได้มากยิ่งขึ้น เพราะเครือข่ายช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยน มีการพัฒนา เป็นระบบ มีความมั่นคงและยั่งยืน



                 ประโยชน์การสร้างเครือข่าย ช่วยสร้างอำนาจการต่อรอง เครือข่ายสามารถป้องกันภัยคุกคามและอำนาจด้านลบจากภายนอกได้  เครือข่ายช่วยให้เรามีที่ปรึกษาดี ดังนั้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คน มีเครือข่ายช่วยสร้างความมั่นคงนั่นเอง






              10. สร้างโมเมนตัม นั้นคือการกระจายแรงเช่น ใช้ความสำเร็จของตนเองเป็นโมเดล แล้วสร้างเครือข่ายลักษณะใยแมงมุมถ่ายทอดวิธีการ โดยค้นหาวิธีสร้างความสำเร็จให้ง่ายและทำซ้ำได้  หลังจากนั้น “ ก็จะเกิดเป็นโมเมนตัมจาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4….  เทคนิคการถ่ายทอดความสำเร็จคือ การเป็นแบบอย่างที่ดี  จะทำให้ลูกทีมเกิดการเลียนแบบ โคลนนิ่งเป็นทอดๆไปเช่น อยากให้ลูกคุณตื่นเช้า คุณต้องตื่นเช้ากว่า ต้องการให้ทีมอ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง 2 หน้าต่อวัน คุณต้องอ่าน 10 หน้าต่อวัน



         กระบวนการ สร้างชีวิต เป็นวิธีคิดเชิงระบบ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพชีวิต  โดยมองภาพรวมการดำเนินชีวิตของคนทั่วไป ถึงมนุษย์ไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่สามารถเลือกรูปแบบในการดำเนินชีวิตได้  สามารถลิขิตวิถีชีวิต ชีวิตเราสร้างได้






No comments:

Post a Comment

การทำ SEO คืออะไร

    การทำ SEO คืออะไร การทำ SEO คืออะไร เรียนรู้เทคนิคง่ายๆ ทำด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียตังค์ "SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้...