Saturday 5 May 2018

ใช้เงินทำงาน วิธีสร้างรายได้สร้างความมั่งคั่งร่ำรวย ที่มนุษย์เงินเดือนต้องรู้

ใช้เงินทำงาน วิธีสร้างรายได้สร้างความมั่งคั่งร่ำรวย ที่มนุษย์เงินเดือนต้องรู้


          มนุษย์เงินเดือน ได้เงินเท่าไรก็ใช้หมดภายในเดือนนั้นๆ ปกติในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน ถึงแม้เงินเดือนจะน้อย  แต่ก็ยังมีเงินเหลือเก็บ แต่เมื่ออายุงานมากขึ้น ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่แล้วทำไม  เงินไม่มีเหลือให้เก็บ  แถมเงินที่มีก็ไม่พอใช้  รายจ่ายและภาระหนี้สินก็เพิ่มขึ้นทุกปี  แล้วเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ก็เพราะขาดแผนทางการเงินและไม่รู้วิธีใช้เงิน จึงทำให้เงินที่ได้มาหมดไปกับค่าใช้จ่ายเพื่อโอ้อวดและการแสดงฐานะเช่น การกู้เงินซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อมือถือเพราะเข้าใจว่าเป็นทรัพย์สิน แต่แท้จริงแล้วเป็นค่าใช้จ่ายหรือหนี้สิน ก่อนที่จะนำเงินไปลงทุน


           ข้ออ้างสำหรับคนซึ่งไร้แผนทางด้านการเงินเช่น เงินทุนมีน้อย ไม่มีความรู้ ไม่มีโอกาสเหมือนกับคนอื่น ไม่มีเวลา แค่ทำงานประจำวันก็เหนื่อยมากแล้ว  จึงขาดการพัฒนาความรู้ทางการเงินและการลงทุน นอกจากนี้ความรู้ที่ได้เรียนมาจากสถานบันการศึกษาก็ไม่ได้สอนเรื่องเงิน ฟังดูเหมือนว่าเงินๆ ทองๆ การลงทุนเป็นเรื่องยาก  จึงไม่สนใจใคร่อยากที่จะเรียนรู้ นอกจากจะไม่มีเงินเก็บแล้ว ยังทำให้เงินเดือนที่เก็บไว้บ้างก็ยังมีค่าลดน้อยลงกว่าเดิมทุกๆปี


          ถึงแม้การทำงานประจำจะให้ความมั่นคงได้ แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยง หากต้องการเงินเพิ่ม ก็สามารถทำโอทีได้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ตลอดไป เพราะมักจะถูกจำกัดจากนายจ้าง ข้อเสียจากการทำงานอย่างหนักด้วยการทำโอที ไม่สามารถวางแผนเวลาให้กับสิ่งอื่นๆที่สำคัญได้เช่น ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไม่มีเวลาดูแลครอบครัว จึงทำให้ชีวิตขาดความสมดุล  “not work life balance”


        ดังนั้นความรู้ทางการเงินจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็น ที่มนุษย์เงินเดือนต้องรู้ โดยสามารถปรึกษาผู้รู้หรือคนเชี่ยวชาญด้านการเงินช่วยแนะนำเช่น อ่านหนังสือทางการเงิน ดูทีวีช่อง Money Channel ฟังวิทยุ หรือเข้าร่วมฟังสัมมนา นอกจากนี้ปัจจุบัน ยังมีนักจัดการทางการเงินมืออาชีพช่วยดูแลและจัดการด้านการเงินแทนเราได้


          ประโยชน์ความรู้ทางการเงินการลงทุน สามารถช่วยทำให้เรากลายเป็นคนใช้เงินเป็น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ไม่มีหนี้สิน  มีเงินเหลือเก็บ สามารถนำเงินที่ได้จากค่าแรงไปลงทุนซื้อทรัพย์สิน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนเป็นเทคนิคการ ใช้เงินทำงาน เพื่อทำให้เงินงอกเงย เมื่อมีทรัพย์สินมากยิ่งขึ้น จนไม่ต้องไปทำงานแลกกับเงินอีก เราก็จะกลายเป็นคนที่มีมั่งคั่งทางการเงินและสามารถออกจากงานก่อนวัยเกษียณได้  สิ่งนั้นคือเป้าหมายของชีวิตมนุษย์เงินเดือน


          ใช้การวางแผนทางการเงินและใช้เงินทำงาน เพื่อลดภาระและลดการทำงานอย่างหนัก ปรับสมดุลชีวิตใหม่ ด้วยเคล็ดลับสร้างความมั่นคงทางการเงินด้วยเทคนิค ใช้เงินทำงาน ฉบับบมนุษย์เงินเดือน ที่นักวางแผนทางการเงิน Jerry Lynch ได้กล่าวไว้ดังนี้





7 เรื่องทางด้านการเงิน ใช้เงินทำงาน แบบมนุษย์เงินเดือนต้องรู้




    1. ก่อนจะใช้เงินทำงานต้องเรียนรู้วิธีลงทุน  โดยทั่วไปคนรวยมักมีจุดกำเนิดความร่ำรวย มาจาก 4 ด้านด้วยกัน คือ


  • การได้รับมรดกตกทอด จากรุ่นสู่รุ่น คุณปู่โอนให้พ่อ พ่อโอนให้ลูก เป็นธรรมชาติที่คนรวยมักจะรวยขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนรวยรวยมักได้รับการถ่ายทอด ความรู้ด้านการเงินการลงทุน ที่สอนให้กับรุ่นถัดไปได้ และนอกจากนี้ยังมี Connection กับคนรวยด้วยกัน

  • การลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ บ้านทำเลทอง ที่ดินขนาดใหญ่ คนรวยในอดีตถึงปัจจุบันจึงมักครอบครองที่ดิน ที่มีมูลค่ามหาศาลแล้วหาประโยชน์จากที่ดินนั้นเช่น ให้คนอื่นเช่า แบ่งเป็นแปลงย่อยขาย สร้างคอนโด บ้านเช่า

  • การทำธุรกิจก่อตั้งบริษัทขนาดใหญ่โตและมีระบบในการจัดการ สามารถจ้างคนที่มีความรู้ ความชำนาญ ใช้มืออาชีพทำงานให้ตนเอง คนมีความรู้จะช่วยสร้างและพัฒนาระบบในการจัดการ ทำให้บริษัทเจริญเติบโต และมีกำไรอย่างต่อเนื่อง

  • การออมเงินในปริมาณมาก ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน คนรวยประเภทนี้ยุคปัจจุบันทำได้ค่อนข้างยาก เพราะการออมเงินด้วยการฝากธนาคาร ไม่สามารถทำให้ตนเองรวยได้  แต่การออมก็ยังเป็นเทคนิคพื้นฐานสำหรับคนรวย แต่เปลี่ยนรูปแบบการออมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจเช่น ออมในหุ้น


         จุดกำเนิดความร่ำรวยคือ วิธีการสร้างเงินของคนรวย ตามความถนัดและความสามารถทักษะของแต่ละคน ปัจจุบันความรู้ในการลงทุน สามารถค้นคว้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีต้นทุนที่ถูกมาก สามารถเข้าไปถาม Google ได้ เพราะมักจะมีคำตอบให้ทุกคำถาม  เรามักได้ยินบ่อยครั้งอิสภาพทางการเงินจากการมีรายได้แบบ Passive Income นั่นคือสามารถหยุดทำงานได้ โดยที่รายได้ไม่หยุด


          กระแสการลงทุนในธุรกิจที่กำลังมาแรง คือ E-commerce การค้า-ขายออนไลน์ แต่ที่กำลังแนะนำต่อไปนี้คือ การลงทุนในตลาดทุน เป็นการลงทุนแบบให้เงินทำงาน แล้วให้ผลตอบแทนสมเหตุสมผล ซึ่งรายได้จะมาจากการปันผล เงินปันผล หุ้นปันผลและส่วนต่างราคาจากการขายหุ้น แต่การลงทุนในหุ้น  โดยส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จต้อง “ลงทุนระยะยาว” ถึงจะกลายเป็นผู้ชนะในตลาดได้ และต้องลงทุนแบบผู้มีความรู้การลงทุน แหล่งความรู้เรื่องหุ้นที่เหมาะสมสำหรับผู้เริ่มต้นได้แก่ www.tsi.com,www.settrade.com เป็นต้น




         2.  ก่อนจะใช้เงินทำงานต้องออมเงิน การเก็บออมเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐีได้ ความรวยจากการออมในปัจจุบันไม่เป็นเหมือนในอดีต เพราะดอกเบี้ยจากการฝากเงินในอดีตสูงมาก รูปแบบการออมในรูปแบบเดิมๆ ด้วยวิธีนำเงินไปฝากไว้ในธนาคารอย่างเดียวคงไม่ได้แล้ว  เพราะดอกเบี้ยต่ำ แต่ไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ จึงทำให้มูลค่าเงินของเราลดลง การออมที่มีความเหมาะสมกับยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้คือ ออมในหุ้น หรืออมด้วยการซื้อสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ แต่ผลตอบแทนการลงทุนต้องไม่น้อยกว่า อัตราเงินเฟ้อที่เฉลี่ยประมาณ 3 % กว่าๆต่อปีได้  เคล็ดลับการออมในหุ้นง่ายๆเช่น การซื้อกองทุนรวม LTF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  RMF เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลการลงทุน


         ข้ออ้างสำหรับคนไม่ได้ออมเช่น รายได้ไม่มาก ยังมีภาระเยอะต้องใช้หนี้อีกมากมาย ลูกยังเล็กค่าใช้จ่ายเยอะ ขอผ่อนบ้าน-ผ่อนรถให้หมดก่อนแล้ว หากมีเงินเหลือใช้แล้วจึงค่อยเก็บออม  ซึ่งเป็นนานาเหตุผล แต่เคล็ดลับสำหรับคนชอบออมคือ ต้องออมให้เป็นนิสัยคือ เมื่อได้รับเงิน ต้องออมก่อนที่จะนำเงินไปใช้จ่าย การเก็บออมขอให้ทำเป็นประจำ ต่อให้เกิดวิกฤตก็ต้องออม  ข้อคิดของการออมคือ คนเรามีความสามารถบริหารจัดการเงินได้ดี หากมีรายได้น้อยก็ยังสามารถบริหารเงินให้เพียงพอต่อการใช้ในชีวิตประจำวันได้ และถึงแม้ว่าจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เราก็ยังสามารถใช้เงินได้หมดเช่นกัน ดังนั้นให้เราออมเงินก่อนที่จะนำไปเป็นค่าใช้จ่าย




           3.  การใช้เงินทำงานต้องสร้างแผนสำรองเสมอ เป็นการสร้างแผนเพื่อเอาไว้รับมือในกรณี ที่ผลลัพธ์จากการลงทุนในหุ้นไม่เป็นไปตามสิ่งที่คาดการณ์ไว้ เพราะโลกปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ สังคม เกิดขึ้นรวดเร็วมาก นั้นต้องสร้างแผน เพื่อรองรับความปกติจากการเปลี่ยนแปลง สมมุติแผน X เราสามารถใช้ได้ดี  แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป เรามักจะพบว่าแผนนั้นไม่สามารถ ให้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการได้ จากเหตุการณ์นี้ คนที่ประสบความสำเร็จโดยส่วนใหญ่ มักจะขจัดความไม่แน่นอนหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตไว้เสมอ และสำหรับคนที่ใช้เงินทำงานในหุ้นต้องมีเทคนิคพื้นฐาน การแบ่งเงินเป็นก้อนหลายตระกร้า เพื่อลดความเสี่ยง และที่สำคัญก้อนเงินสำหรับลงทุนในหุ้นต้องเป็นเงินเย็น เพราะการลงทุนต้องอาศัยเวลา






            4. การใช้เงินทำงานต้องเริ่มต้นให้เร็ว ช้าอย่างเต่าชนะเสมอ  หมายถึงให้เริ่มต้นลงทุนทางการเงินเมื่ออายุยังน้อย เพราะความสำเร็จ มักต้องการเวลาเสมอ การลงทุนในหุ้นต้องอาศัยการเรียนรู้และประสบการณ์  พยายามศึกษาหาความรู้การเงินการลงทุนเพิ่มเติม  เพราะการเก็บออมและการลงทุนได้เร็ว ยังมีเวลาเหลือพอที่จะได้เรียนรู้และการใช้บทเรียนจากความล้มเหลวไปสร้างโอกาสแห่งความสำเร็จ อายุยังน้อยสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ จึงมีโอกาสทำให้ทรัพย์สินมีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ 




           5. การใช้เงินทำงานต้องมีคนเก่งคอยช่วย เป้าหมายการทำงานของ Jerry Lynch ก็คือ “เป็นคนที่โง่ที่สุดในที่ทำงาน” เพราะนั่น หมายความว่าเขาได้อยู่ท่ามกลางคนเก่ง มีคนฉลาดมากมาย ที่ช่วยทำให้ทุกการตัดสินใจใหญ่ๆ ของเขามักมีสุดยอดที่ปรึกษา คอยชี้แนะก่อนลงมือทำการสิ่งใด เพราะไม่มีใครเก่งทุกเรื่อง ดังนั้นการ ยอมรับข้อจำกัดของตนเอง ย่อม ทำให้เราสามารถดึง ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาช่วยทำให้ทุกการตัดสินใจ ดียิ่งขึ้น มีความละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้น ความเสี่ยงก็น้อยลง โอกาสประสบความสำเร็จก็จะยิ่งมีมากขึ้น วิธีร่นระยะเวลาในการสร้างเงินโดย ใช้เงินทำงาน วิธีลงทุนในหุ้นคือการใช้ผู้เชี่ยวชาญชี้แนะแนวทางแห่งความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ทักษะด้านต่างๆเช่น ความรู้ด้านเทคนิคและคุณภาพ การวิเคราะห์ตัวเลขและประเมินงบทางการเงิน




          6.  การใช้เงินทำงานต้องปฎิเสธ แทนที่จะตอบรับเมื่อไม่พร้อม จะทำให้เรามีเงินเหลือมากขึ้น การเจรจาการสนทนาทางธุรกิจ อาจไม่ใช่ข้อตกลงที่ดี ในช่วงเวลานั้น อาจไม่เหมาะสมที่เราจะตัดสินใจเซ็นต์สัญญา เมื่อรู้ว่าไม่พร้อมหรือผลลัพธ์จากการเจรจา มันไม่ช่วยทำให้ได้รับผลประโยชน์ที่มีคุณค่าพอ เราควรนำข้อมูลกลับมาศึกษาเรียนรู้มันใหม่  ค่อยเริ่มต้นกระบวนการต่อรองใหม่อีกครั้ง จนกว่าเราจะได้ในสิ่งที่ต้องการจริงๆ เพราะนั่นย่อมดีกว่าการเสียเงินไป กับเรื่องที่เราได้ผลตอบแทนที่ต่ำ การตัดสินใจและช่วงเวลาในการเลือกซื้อหุ้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ หากราคาหุ้นตัวที่เรากำลังสนใจแพงจนเกินไปควรปฏิเสธ แล้วรอโอกาสใหม่




           7.  การใช้เงินทำงานต้องเข้าใจว่าทุกอย่างมันมีโอกาส มีความเป็นไปได้ ที่จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ได้เสมอ  การมีความละเอียดรอบคอบและการศึกษอย่างละเอียดก่อนการลงมือทำ ก่อนที่จะหาเงินจากการ ใช้เงินทำงาน ในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ต้องรู้ว่าอะไรที่มันเป็นไปได้บ้าง แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เมื่อเราลงทุนไปแล้วระยะเวลาหนึ่ง สำคัญอยู่ที่ต้องมีแผนรองรับ แล้วคอยเฝ้าระวังในสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ การเตียมความพร้อมให้ทุกด้าน ทั้งความฉลาดทางด้านปัญญาและความฉลาดทางด้านอารมณ์





สร้างชีวิต กระบวนการพัฒนาชีวิตตนให้มีความสุข เกิดความมั่งคั่งและมั่นคง

สร้างชีวิต กระบวนการพัฒนาชีวิตตนให้มีความสุข เกิดความมั่งคั่งและมั่นคง






























        จากแนวคิดเชิงกระบวนการที่เป็นระบบ ซึ่งถูกนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานทั่วไป โดยเป็นเครื่องมือในการศึกษางานทางด้านวิทยาศาสตร์หรืองานด้านค้นคว้างานวิจัยและเป็นเครื่องมือในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน  เพื่อสร้างมาตรฐานและการปรับปรุงงานให้ดีขึ้น จากข้อดีของแนวคิดเชิงกระบวนการ จึงช่วยให้การมองภาพรวมกลไกลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะทำให้เห็นภาพของความสัมพันธ์ในแต่ละขั้นตอนว่ามีปัจจัยใดบ้างเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เราสามารถโฟกัสไปที่กระบวนการที่สร้างมูลค่าและสามารถขจัดขั้นตอนหรือสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปได้อย่างถูกต้อง จากประโยชน์และคุณค่าแนวคิดเชิงกระบวนการมีระบบ สามารถนำมาเป็นโมเดลเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เรียกว่า กระบวนการ สร้างชีวิต เข็มทิศชีวิตสร้างคน แนวคิดการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นมีความเจริญก้าวหน้าใช้ชีวิตประจำได้อย่างมีความสุข อย่างมั่งคั่งและมั่นคง




กระบวนการ สร้างชีวิต หมายถึง แนวคิดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตจากปัจุบัน ให้เปลี่ยนไปตามความต้องการที่แท้จริงของชีวิตเช่น ปัจจุบันคือคนที่เคยตื่นเช้าไปทำงานทุกวัน แต่ก็ยังมีเงินไม่พอใช้ แถมยังไม่สามารถแบ่งเวลาให้กับตนเองและครอบครัวได้ จึงพัฒนาตนเองด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการหาเงินและไลฟ์สไตล์ ให้หลุดพ้นจากวัฏจักรการทำงานประจำ ไปเช้า-เย็นกลับ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข



          คนเราทำบุญมาไม่เท่ากัน บุญในที่นี้หมายถึง ต้นทุนชีวิตที่ประกอบไปด้วยปัจจัยมากมายเช่น ฐานะทางการเงิน ทุนด้านการศึกษา ประสบการณ์ชีวิตการเรียนรู้  พรสวรรค์ ทัศนคติ ความคิดและความเชื่อมั่นในความสามารถ ฯลฯ  บางคนเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่บางคนเกิดจากครอบครัวที่ยากจน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เราสามารถสร้างมันขึ้นได้ด้วยสองมือ ถึงแม้ว่าจะต้องทำงานหนักมากกว่าคนอื่น การมีใจที่มุ่งมั่น มีความหวัง มีความเพียร ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ก็จะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินได้



          กระบวนการต่อไปจากนี้คือ วิธีการสร้างบุญให่แก่ตนเอง เป็นการพัฒนาอันมีจุดเริ่มต้นจากการเปลี่ยนความคิด ” ความคิดเปลี่ยน  การกระทำเปลี่ยน ผลลัพธ์ก็เปลี่ยน”  ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดังนั้นเราคือผู้ออกแบบรูปแบบชีวิตให้แก่ตนเอง เราคือผู้รับผิดชอบอันเกิดขึ้นจากการตัดสินใจ การเป็นคนไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตาชีวิตจะทำให้เราเป็นผู้กำชัยชนะ กระบวนการสร้างชีวิต มีขั้นตอนดังนี้







              1. ตั้งเป้าหมายชีวิต  สิ่งแรกที่เราควรให้คำมั่นสัญญากับตนเองคือ ความชัดเจนในเป้าหมายชีวิตที่ตรงความต้องการอย่างแท้จริง เพราะคนที่ทำอะไรโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้รับอะไรเป็นสิ่งตอบแทน ซึ่งเรียกว่าไร้จุดมุ่งหมาย จะทำให้สูญเสียทั่งโอกาสและสูญเสียเวลา แต่สำหรับคนมีเป้าหมายยิ่งใหญ่ จะกลายเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจ สามารถเรียกความเชื่อมั่นและมีพลังพลานุภาพจากจิตใจ เพื่อผลักดันตนเองให้กลายเป็นคนพากเพียร มีความมุ่งมานะ และลงมือทำให้บรรลุตามเป้าหมายได้ มีกำลังใจในการต่อสู่เพื่อเอาชนะปัญหาอุปสรรค โดยไม่ย่อท้อต่อความผิดพลาดและการตัดสินใจที่ล้มเหลว แต่จะใช้ความล้มเหลวเป็นบทเรียนเพื่อเรียนรู้ และทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม



              วิธีการตั้งเป้าหมายชีวิตต้องกล้าคิดการใหญ่ ต้องชี้วัดได้ มีความเป็นไปได้ สำเร็จได้และต้องกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน  การตั้งเป้าหมายแล้วจินตนาการภาพแห่งผลลัพธ์แห่งความสำเร็จเป็นเคล็ดลับการป้อนพลังเชิงบวกให้แก่จิตใต้สำนึก เทคนิคคือการเขียนเป้าหมายที่เราต้องการลงกระดาษแล้วนำไปติดข้างผนัง หลังจากนั้นมองมันทุกวัน เพื่อกระตุ้นตนเองโน้มน้าวตัวเองให้เกิดขวัญกำลังใจให้เกิดขึ้นได้จากตนเอง



             ข้อดีของจิตใต้สำนึก ที่ไม่สามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งใดเกิดขึ้นจริงหรือเป็นภาพจากจินตนาการ ดังนั้นภาพแห่งความฝันจิตสำนึกมันจะรับรู้ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตของเราแล้ว อยากให้ชีวิตตนเองเป็นอย่างไร เขียนเป้าหมายออกมาให้มากที่สุดแล้วเลือกเอาสิ่งที่เหมาะสมที่สุด






               2. สำรวจสภาพชีวิตปัจจุบัน สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ ความรู้ในการลงทุน เพื่อประเมินช่องว่างระหว่างเป้าหมายกับสิ่งที่ตนเองมีอยู่นั้นคือ บุญ ที่ตัวเราเองเป็นผู้สร้าง เริ่มต้นจากการค้นหาคุณสมบัติคนที่จะประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย  โดยการเปรียบเทียบกับคนที่เป็นโมเดลแห่งความสำเร็จในด้านต่างๆ ที่เคยได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จมาแล้ว ด้วยเทคนิคการอ่านหนังสือชีวประวัติ ฟังสัมมนา พูดคุยกับกูรูโดยตรง ฯลฯ หลังจากนั้นค้นหา จุดเด่นในตนเองที่สามารถพัฒนาให้กลายเป็นความแข็งแกร่งได้ แล้วจึงค้นหาข้อด้อยเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น



              สิ่งที่ต้องประเมินอีกอย่างคือ การประเมินอาชีพที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบันว่า มันสามารถทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่  เช่นหากต้องอิสรภาพด้านการเงิน ก็จะต้องทำงานหรือลงทุนที่สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ได้ โดยเขียนทุกอย่างลงบนกระดาษ






               3. การค้นหาวิธีการสร้างเงินหรือ การค้นหาอาชีพที่ตอบสนองต่อเป้าหมาย  เราไม่สามารถเลือกประกอบอาชีพที่ชอบได้เสมอไปเพราะอาชีพที่ชื่นชอบบางอย่างให้ค่าตอบแทนน้อยได้เงินไม่พอใช้ กลายเป็นคนที่ไม่มีอำนาจทางการเงิน ควรค้นหาอาชีพที่ใช่ที่สามารถสร้างเงินและให้อิสรภาพได้ สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นได้ แล้วค่อยไปทำอาชีพที่ชอบในภายหลัง



             จงตระหนักว่านี่คือ ตัวเราคือคนที่ต้องรับผิดชอบชีวิตใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่ใช่ ปล่อยให้สิ่งแวดล้อมอย่างมาอื่นบ่งการชีวิต ” ทำความเข้าใจกับกฎของธรรมชาติว่า คนที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพใด จะต้องเป็นคนในลำดับต้นๆของอาชีพนั้นๆ  เช่นการจะเป็นคนที่มีรายได้จากงานประจำในจำนวนมากๆ จะต้องเป็นกรรมการบริษัท ไม่ใช่กรรมกร เป็นเจ้านายไม่ใช่ ลูกน้อง แล้วถ้าจะให้ดีควรเป็นเจ้าของ ไม่ใช่ ลูกจ้าง”



            หากอาชีพที่ทำอยู่ ไม่สามารถพัฒนาให้ถึงเป้าหมายได้ ควรเปลี่ยนวิธีหรือเปลี่ยนอาชีพ เปิดใจเพื่อมองหาโอกาส แล้วเรียนรู้อาชีพใหม่ที่ใช่  กล้าเปลี่ยนแปลงชีวิตออกจาก Confront Zone ศึกษาวิธีการใหม่ๆ มองหาอาชีพที่สามารถตอบสนองเป้าหมายของชีวิตได้เช่น เรียนรู้วิธีสร้างรายได้แบบ Passive Income ซึ่งเป็นรูปแบบที่มาของรายได้อย่างหนึ่ง ที่สามารถให้อิสรภาพทางการเงินได้



             หมายเหตุ หากไม่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ แต่ต้องรู้จักการจัดการด้านการเงิน  แบ่งเงินไปลงทุนเพื่อสร้างรายได้แบบ Passive Income ซึ่งมนุษย์เงินเดือนก็สามารถทำได้ โดยเริ่มต้นจากการใช้แรงงานเพื่อแลกกับเงิน หลังจากนั้นนำเงินที่ได้ไปลงทุนซื้อทรัพย์สินเช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ สร้างบ้านคอนโดให้เช่า ฯลฯ เพื่อให้สินทรัพย์ทำงานสร้างเงิน เมื่อเงินมากกว่าค่าใช้จ่าย นั้นแหละอิสรภาพทางการเงิน






             4. ประเมินความเป็นไปได้ ของอาชีพใหม่  แม้ว่าความรู้จะเป็นยาวิเศษ แต่การไม่รู้ตนเองคือ จุดจบของชีวิต เพราะการเปลี่ยนแปลงชีวิตไม่ขึ้นอยู่ที่ใคร แต่อยู่ที่ตนเอง ดังนั้นการประเมินความเป็นไปได้ ตัวเราคือผู้ที่รู้ดีที่สุด



             คำนึงถึงบุญกรรมที่มี ประเมินจุดแข็ง-จุดด้อยของตนเองให้สอดคล้องกับเป้าหมายและสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน มองพื้นฐานของตนเอง ประเมินความสามารถและศักยภาพที่ตนเองมีอยู่ ข้อจำกัด และความเป็นไปได้



             ข้อจำกัดของเรามีหลายด้านด้วยกันเช่น  1) ข้อจำกัดด้านเวลาเราแก่เกินไปหรือไม่ สำหรับงานที่ท้าทายและมีความเสี่ยงสูง  2) เรามีพรสวรรค์เพียงพอหรือไม่ หมายถึง ความจำกัดด้านร่างกายที่ไม่สามารถแก้ไขได้เช่น อยากเป็นนักกีฬาเทนนิส แต่แขนขาพิการ 3) ข้อจำกัดด้านเงินทุน การทำธุรกิจหรือการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ต้องใช้เงินลงทุนที่สูงมาก เรามีหนทางในการหาแหล่งเงินมาลงทุนได้หรือไม่





                5. ลุยและทำอย่างตั้งใจ เมื่อได้อาชีพที่ตอบโจทย์เป้าหมายชีวิตแล้ว ควรสร้างแผนปฏิบัติ Action Plan  และที่สำคัญต้องรู้ว่าจะได้อะไร เมื่อลงมือทำในแต่ขั้นตอนจนสำเร็จ นั่นคือเป้าหมายย่อย แผนในแต่ละขั้นตอนต้องกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน เพื่อประเมินความสำเร็จในสิ่งที่กำลังทำว่า ยังเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนวิธีการได้ทันกัยสถานการณ์



               ซึ่งในแต่ละขั้นของการปฏิบัติ ต้องมีองค์ความรู้  “ การศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ในสิ่งที่กำลังลงมือทำให้แตกฉาน  ”  เคล็ดลับคือ การเลียนแบบคนประสบความสำเร็จ ทั้งแนวคิดและวิธีการลงมือทำ เป็นการคัดลอกและประยุกต์ใช้ เช่น หากจะเป็นนักลงทุนในหุ้น ต้องมีความรู้ด้านวิเคราะห์การเงิน การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน สามารถวิเคราะห์แนวโน้มด้านเทคนิค การประเมินราคาของหุ้นและรู้จังหวะการซื้อ-ขาย โดยศึกษากับกูรูหุ้น



              เมื่อมีความรู้แล้วให้ลงมือทดสอบกับของจริงได้  ลงมือทำด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ มีมานะอดทน เชื่อมั่นและศรัทธาในศักยภาพที่ตนเองมี





           6. เรียนรู้และเปลี่ยนแปลง คนที่ประสบความสำเร็จจะมองเห็นการเติบโต มีความยืดหยุ่น คิดบวกได้ทั้งสิ่งที่เป็นบวกหรือเป็นลบ ทุกๆครั้งที่ล้มเหลวพ่ายแพ้ไม่ประสบความสำเร็จ พวกเขาจะเรียนรู้จากความผิดพลาด  ใช้ความผิดพลาดกลายเป็นบทเรียน เพื่อสร้างความพร้อม สำหรับโอกาสครั้งถัดไป หากไม่ประสบความสำเร็จพวกเขาจะพัฒนาปรับปรุงแก้ไขปัญหา จะไม่จมอยู่กับปัญหา ไม่ท้อแท้สิ้นหวัง



           ประเมินในสิ่งที่ทำ หากรู้ว่าสิ่งที่ทำไม่สามารถตอบสนองต่อเป้าหมาย พวกเขาจะเปลี่ยนวิธีการ แต่ไม่เปลี่ยนเป้าหมาย





         7. ฉลองให้กับความสำเร็จ เพื่อตอกย้ำความมั่นใจ ให้ตึงตราอยู่ภายในใจ ความมั่นใจจะสร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นตนเองให้มีแรงบันดาลใจ การฉลองให้กับความสำเร็จขั้นที่หนึ่ง สามารถสร้างขวัญกำลังใจและพลักดันพลังภายใต้จิตสำนึก ให้เผชิญกับปัญหา จนไปสู่ความสำเร็จลำดับขั้นถัดไปได้



         การฉลองให้กับความสำเร็จ จะเพิ่มพลังแห่งความศรัทธาในตนเองได้มากยิ่งขึ้น เป็นการกระตุ้นพลังแห่งความกล้า กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ กล้าริเริ่มโครงการใหม่ๆ วิธีการง่ายๆคือ ทุกๆขั้นของความสำเร็จควรให้รางวัลกับตนเอง ไม่ว่าจะความสำเร็จนั้น จะเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่เช่น การเอาชนะตนเองสามารถตื่นนอนก่อน 6.00 น.ซึ่งไม่เคยทำได้มาก่อน  ด้วยซื้อของอร่อยๆ ให้กับตนเอง





               8. เป็นผู้ให้ คนรวยและดี มักจะเป็นผู้ให้ก่อนที่จะได้รับเสมอเช่น ก่อนที่จะขายสินค้าให้คนอื่น ต้องทำสินค้าที่มีคุณภาพและมีปริมาณที่เหมาะสมกับราคา จึงทำให้ผู้ซื้อยินดีที่จะจ่ายเงิน  การเป็นผู้ให้ก่อนจะได้รับสิ่งตอบแทนที่มีมูลค่ามากกว่าสิ่งของที่ให้เช่น การช่วยเหลือสังคมของบริษัทใหญ่ๆ จะทำให้ผู้บริโภคจำตราสินค้าของพวกเขาได้



                  การให้ด้วยวิธี ถ่ายทอดความสำเร็จ ก็จะสร้างความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น เพราะก่อนที่จะเป็นครูใครได้ต้องมีความรู้และมีความเชี่ยวชาญมากกว่าผู้อื่นเสมอ ผู้ให้ย่อมได้รับความสุขด้านจิตใจ ผู้ให้ย่อมได้รับการเคารพและการยกย่องชื่นชม





                9. ต้องสร้างเครือข่าย การสร้าง Connection และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่ประสบความสำเร็จ  จะทำให้ตนเองสามารถพัฒนาทักษะความสามารถให้หลากหลายได้มากยิ่งขึ้น เพราะเครือข่ายช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยน มีการพัฒนา เป็นระบบ มีความมั่นคงและยั่งยืน



                 ประโยชน์การสร้างเครือข่าย ช่วยสร้างอำนาจการต่อรอง เครือข่ายสามารถป้องกันภัยคุกคามและอำนาจด้านลบจากภายนอกได้  เครือข่ายช่วยให้เรามีที่ปรึกษาดี ดังนั้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คน มีเครือข่ายช่วยสร้างความมั่นคงนั่นเอง






              10. สร้างโมเมนตัม นั้นคือการกระจายแรงเช่น ใช้ความสำเร็จของตนเองเป็นโมเดล แล้วสร้างเครือข่ายลักษณะใยแมงมุมถ่ายทอดวิธีการ โดยค้นหาวิธีสร้างความสำเร็จให้ง่ายและทำซ้ำได้  หลังจากนั้น “ ก็จะเกิดเป็นโมเมนตัมจาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4….  เทคนิคการถ่ายทอดความสำเร็จคือ การเป็นแบบอย่างที่ดี  จะทำให้ลูกทีมเกิดการเลียนแบบ โคลนนิ่งเป็นทอดๆไปเช่น อยากให้ลูกคุณตื่นเช้า คุณต้องตื่นเช้ากว่า ต้องการให้ทีมอ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง 2 หน้าต่อวัน คุณต้องอ่าน 10 หน้าต่อวัน



         กระบวนการ สร้างชีวิต เป็นวิธีคิดเชิงระบบ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพชีวิต  โดยมองภาพรวมการดำเนินชีวิตของคนทั่วไป ถึงมนุษย์ไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่สามารถเลือกรูปแบบในการดำเนินชีวิตได้  สามารถลิขิตวิถีชีวิต ชีวิตเราสร้างได้






ประสบความสำเร็จ เคล็ดลับวิธีคิดของมหาเศรษฐี กลายเป็นคนประสบความสําเร็จในชีวิต

ประสบความสำเร็จ เคล็ดลับวิธีคิดของมหาเศรษฐี กลายเป็นคนประสบความสําเร็จในชีวิต






















           













 นโปเลียน ฮิลล์ เจ้าของหนังสือThink & Grow Rich ได้กล่าวไว้ว่า ทำไมคนส่วนใหญ่จึงไม่พบกับความสำเร็จในชีวิต ผลที่ได้รับจากการศึกษาของเขาสามารถสรุปได้จากการสัมภาษณ์คนที่ ประสบความสำเร็จ ทางด้านการเงินและผู้ประสบความสำเร็จด้านอื่นๆอีกมากมาย ทำให้เขาค้นพบว่า ต้นเหตุแท้จริงของความสำเร็จและความล้มเหลวนั้น ล้วนเกิดขึ้นจากความคิดทั้งสิ้น ซึ่งความคิดคือผู้กำหนดโชคชะตาและเป็นเข็มทิศชี้นำไปสู่ความสำเร็จหรือความล้มเหลวในชีวิตได้ คนที่มีเป้าหมายและมีแผนที่ชีวิตที่ชัดเจนย่อมประสบความสำเร็จในชีวิต ตรงกันข้ามคนที่ไร้ซึ่งความชัดเจนไม่ตัดสินใจอะไร จะกลายเป็นคนที่พ่ายแพ้และล้มเหลวในชีวิต มีวิถีการดำรงชีวิตไร้ซึ่งความสุข  

             จากการสำรวจของ นโปเลียน ฮิลล์ ท่านจึงได้สรุปแนวความคิดและทรรศนคติได้ถึง 30 ประการ ที่กลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนเราไม่ ประสบความสำเร็จ ซึ่งตรงกันข้ามกับการเป็นผู้ชนะและประสบความสำเร็จในชีวิต 

           






















 


เคล็ดลับ 30 ประการ วิธีคิดของมหาเศรษฐี ที่กลายเป็นคน ประสบความสําเร็จ ในชีวิตมีดังนี้


  1. สร้างพันธุกรรมที่ดี บางคนเกิดมาพร้อมกับพลังสมองที่มีขีดจำกัด แต่สมองและความคิดสามารถพัฒนาได้ สมองจะมีพัฒนาการดีขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการเรียนรู้ คนสมองดีไม่ใช่คนที่พรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเท่านั้น แต่สมองดีอยู่ที่การปรับปรุงและการฝึกฝนอยู่เสมอ  คิดสร้างสรรค์และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากทดลองเพิ่มทักษะจากการทำซ้ำบ่อยๆ สร้างแรงบันดาลใจเพื่อสร้างพลังแห่งความเชื่อมั่นในตนเอง สร้างความเพียรด้วยการทำที่ละขั้นเท่าที่กำลังที่มี เพื่อเอาชนะปัญหาอุปสรรคไปสู่ความสำเร็จในชีวิต

  2. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน วิธิตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ด้วยวิธีคิดแบบ SMART คือมีลักษณะเจาะจง ชี้วัดได้ มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้สำเร็จ เป้าหมายต้องเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงแล้วต้องตั้งกรอบระยะเวลาให้ชัดเจน เพื่อประเมินผลและสามารถเปลี่ยนวิธีใหม่ๆเพื่อไปหาเป้าหมายได้ นอกจากนี้การตั้งเป้าหมายให้ดี ควรคิดให้ใหญ่ เพราะเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ จะช่วยสร้างแรงจูงใจ สร้างความมุ่งมั่นเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ และขณะที่กำลังเผชิญกับปัญหาที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต การจินตนาการภาพผลลัพธ์แห่งเป้าหมาย จะช่วยพลักดันพลังใจ ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

  3. มีความทะเยอทะยาน จะช่วยสร้างความมั่นใจและความกล้าหาญ เป็นพลังอันเกิดจากการป้อนสิ่งดีเข้าสู่จิตใต้สำนึกด้วยความคิดและประสบการณ์ชีวิต การสะสมความคิดเชิงสร้างสรรค์ แล้วใช้ความต้องการเป็นแรงกระตุ้นต่อมความอยาก ให้กลายเป็นแรงแห่งความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะปัญหาอุปสรรค เมื่อชีวิตต้องพบกับความล้มเหลว คนที่มีความทะเยอทะยานจะสามารถลุกขึ้นได้ ไม่ท้อท้อสิ้นหวัง มักจะไม่จมอยู่กับตัวปัญหา แต่จะอาศัยความเพียรพยายามเพื่อจะค้นหาวิธีแก้ไข  และก้าวไปสู่หนทางแห่งความสำเร็จ

  4. ศึกษาเรื่องที่เราจะลงทุนให้ครบทุกด้าน การลงทุนและความเสี่ยงเป็นของคู่กัน การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนน้อยย่อมมีความเสี่ยงต่ำ ตรงกันข้ามโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนสูง ย่อมมีความเสี่ยงสูง คนที่ประสบความสำเร็จจะไม่ลงทุนแล้วให้ผลตอบแทนต่ำ เพราะพวกเขามองว่าเป็นการเสียเวลาและเสียโอกาส ที่จะสร้างสินทรัพย์ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด พวกเขารู้ดีว่าคนที่ ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มต้นลงทุนให้เร็วและก่อนที่จะลงทุน พวกเขาต้องมั่นใจว่าคุ้มค่า ดังนั้นสิ่งที่ช่วยพวกเขาได้คือ การศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ให้ครบทุกๆด้าน เพื่อช่วยสร้างความเชื่มมั่น ได้ว่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จและลดความเสี่ยงในการลงทุนได้

  5. มีวินัย  การมีวินัยในตัวเองจะช่วยฝึกความอดทน ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ใดง่ายๆ การฝึกวินัยคือการลงมือทำซ้ำๆอย่างเป็นประจำทุกวัน ไม่พลัดวันประกันพรุ่ง เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ ไม่ลังเลที่จะลงมือทำ เชื่ออย่างหมดใจว่าวิธีและสิ่งที่กำลังทำอยู่ จะสามารถสร้างความสำเร็จในชีวิตได้ วินัยทำให้เป็นคนนิสัยที่ดี  มีแผนงาน มีกลยุทธ์ มีระเบียบ ทำแบบซ้ำๆ จะช่วยสร้างทักษะและเกิดความชำนาญ มีความเป็นมืออาชีพในสิ่งที่ทำ

  6. สร้างสุขภาพดีได้ทุกวัน  คนที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ จิตใจกับร่างกายจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ความคิดดีคิดเชิงบวกช่วยทำให้สุขภาพร่างกายดี ช่วยทำให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานสัมพันธ์กัน การผลิตฮอร์โมนต่างๆ ถูกหลั่งออกมาอย่างเหมาะสม   วิธีการดูแลสุขภาพ  1) การดููแลสุขภาพจิตใจด้วยวิธีคิดบวกเชิงสร้างสรรค์จะเป็นตัวกระตุ้นสมองให้มีการตื่นตัวและหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข 2) การดูแลสุขภาพร่างกายเป็นเรื่องสำคัญมาก การดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์สูงสุด ทั้งด้านอาหาร การออกกำลังกาย การพักผ่อนอย่างเพียงพอและการได้รับอากาศที่ดีทุกๆวัน

  7. สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี การเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ นั้นถึงจะเป็นเรื่องยาก แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ได้ และเริ่มต้นง่ายๆคือ การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเอง จิตใต้สำนึกไม่สามารถเลือกที่จะรับข้อมูลเพียงด้านใดด้านหนึ่งได้ ดังนั้นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีคือ ควรนำเอาตัวออกห่างสิ่งที่มีผลทำให้เรามีความคิดด้านลบไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ญาติ แล้วให้เลือกสิ่งแวดล้อมที่เป็นบวก

  8. ทำทันที่  ตอบโต้ทันที อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง เพราะไม่รู้ว่าเราเหลือเวลาอยู่บนโลกนี้ได้นานเพียงใด อย่ารอเพราะเวลาไม่เคยรอใคร รู้จักการบริหารเวลาให้เหมาะสม ใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่ามากที่สุด การบริหารเวลาให้เกิดความสมดุล เพื่อความสุขกับการใช้ชีวิต Work Life Balance: 8:8:8 คือ 8 ชั่วโมงแรกคือ การผักผ่อนให้เพียงพอเพราะจะช่วยฟื้นฟูร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ และกลับมาทำได้อย่างสมบูรณ์เต็มที่ 8 ชั่วโมงสำหรับการทุ่มเทตั้งใจกับการทำงาน และ8 ชั่วโมงสุดท้ายสำหรับการออกกำลังกาย การให้เวลากับคนรัก พ่อแม่ ลูกและการทำกิจกรรมสันทนาการ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับครอบครัว

  9. มีความมุ่งมั่น แนวโน้มความท้อแท้เป็นสัญญาณแรกของความพ่ายแพ้ และไร้พลังที่จะเอาชัยชนะ  วิธีคิดคือ การแทนที่ความท้อแท้ด้วยความมุ่งมั่น จะกลายเป็นพลังจากใจแล้วพลักดันความเข้มแข็งได้ด้วยตนเอง คนที่มุ่งมั่นและมีความเพียรพยายาม  แม้ว่าจะพบกับความล้มเหลว แต่มักจะได้เรียนรู้โอกาสจากความล้มเหลว 

  10. สร้างบุคลิกภาพดี  การติดต่อธุรกิจการค้าสิ่งแรกที่คนอื่นประเมินได้คือ บุคลิกของตัวเรา การพัฒนาตนเองให้มีบุคลิกภาพดี ทั้งกายและใจ ย่อมสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองได้ เทคนิคการมีบุคลิกภาพดี ด้วยวิธีการเดิน การนั่งต้องเท่ห์สง่า ยืดไหล่ตรง การแสดงออกทางความคิดและการพูดจาดี น่าเชื่อถือ มีความรู้จริงในเรื่องที่พูด  คนที่มีบุคลิกภาพดีสามารถโอกาสให้กับตนเองเพื่อสร้างความสัมพันธ์ Connection อันดีกับคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

  11. สามารถควบคุมอารมณ์ได้ อารมณ์เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรคำนึงถึง การตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานของเหตุและผลจะนำมาซึ่งความสำเร็จ ตรงกันข้ามคนที่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจผลลัพธ์มันคือ ความพ่ายแพ้ ล้มเหลว อารมณ์จะถูกสื่อออกไปกับกับกริยาท่าทาง สามารถทำให้คนที่เจรจาด้วย มองเห็นถึงความจริงใจได้เช่น หากจะพูดคำว่าขอบคุณ ต้องแสดงออกทางสีหน้าแววตาที่จริงใจกับคำพูดนั้นด้วย การฝึกสมาธิบ่อยๆ เป็นวิธีช่วยให้มีสติสามารถควบคุมอารมณ์ได้ ในขณะที่กำลังเผชิญกับสิ่งเลวร้ายหรือเหตุการณ์ที่เราไม่ยินดีด้วย

  12. สร้างแรงปรารถนาแทนการ “เสี่ยงโชค” แรงปรารถนาคือพลังที่สามารถโน้มน้าวตนเอง ให้กล้าลงมือทำ ให้ได้รับผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ  คนที่มีแรงปรารถนาจะแสดงออกด้วยแววตาที่มุ่งมั่น  การสร้างแรงปรารถนาคือวิธีสร้างแรงบัลดาลใจ ให้ตนเองคิดได้เสมอว่า กำลังเล่นเกมส์ที่เดิมพันด้วยเป้าหมายเดิม แต่สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีในการเล่นได้ ตรงกันข้ามกับการเสี่ยงโชคจะท้อแท้เมื่อผิดหวัง และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ยกตัวอย่างเช่น คนส่วนใหญ่ที่ลงทุนในหุ้นแล้วมักจะล้มเหลว เพราะเมื่อราคาของหุ้นขยับ มักจะเปลี่ยนเป้าหมาย แทนที่จะลงทุน จึงกลายเป็นการเสี่ยงโชคแบบเก็งกำไร ซื้อมา-ขายไป

  13. กล้าตัดสินใจ คนโดยทั่วไปมักจะไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นภายหลังจากการตัดสินใจ กลัวว่าว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ความร้ายแรงของการไม่กล้าตัดสินใจคือ ความพ่ายแพ้ ที่จะทำให้เราได้เรียนรู้และสะสมประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่าการตัดสินใจครั้งนั้นจะไม่ได้รับชัยชนะ แต่ความผิดพลาดไม่ได้บ่งบอกว่า เราจะกลายเป็นคนที่ล้มเหลว ซึ่งความสำเร็จของการตัดสินใจคือ โอกาสที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โอกาสแห่งความสำเร็จกำลังเกิดขึ้น ช่วยให้เราสามารถทำสิ่งเคยผิดพลาดได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

  14. ขจัดความกลัว ความกลัวเป็นสิ่งที่ขัดขวางการ ประสบความสำเร็จ ในชีวิต ความกลัวเป็นสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจ คนที่กลัวคือการยอมรับสภาพ  เพราะทุกสิ่งในโลกย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การปรับปรุงตนเองให้มีความรู้ มีทักษะความสามารถให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจและสามารถขจัดความกลัวได้ อย่ากลัวที่จะถูกตำหนิติเตียนเพราะคนที่ไม่ผิดพลาดเลยคือ คนที่ไม่เคยลงมือทำอะไร อย่ากลัวการเจ็บป่วย อย่ากลัวการสูญเสียของรัก อย่ากลัวความแก่ชรา อย่ากลัวตายเพราะทุกสิ่งในโลกเกิดมาแล้วย่อมดับไป แต่ให้คิดว่า จะรับมืออย่างไรถ้าในอนาคตมันเกิดขึ้นจริงอย่างนั้น จงเตรียมความพร้อมให้ครบทุกด้านทั้งร่างกายจิตใจ เตรียมเงินให้มีปริมาณที่เพียงพอเมื่อเวลานั้นมาถึง

  15. เลือกคู่ครองที่ดี การได้คู่ครองที่ดี จะเป็นแรงส่งเสริมให้การทำสิ่งต่างๆนั้น ประสบความสำเร็จ ได้เร็วมากขึ้น ความสัมพันธ์ที่ดีของคู่สมรส จะทำให้คนเราแสดงความประพฤติออกมาด้วยความรัก เหมือนมีพลังเพิ่มขึ้น มีความละเอียดรอบครอบในการทำสิ่งต่างๆไปสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

  16. มองข้ามรายละเอียดบางอย่าง คนที่มีความละเอียดเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งการที่มองรายละเอียดมากจนเกินไป ใส่ใจกับจุดเล็กน้อย มากจนเกินไปจะทำให้เราตัดสินใจได้ช้า จนบางครั้งทำให้เราพลาดเรื่องสำคัญไป ให้มองที่เป้าหมายเป็นหลัก เรื่องบางเรื่องที่มีผลกระทบ แต่น้อยมากก็ให้ตัดมันออกไปซะ

  17. นำตัวเองไปอยู่กับเพื่อนที่ประสบความสำเร็จที่ดี คล็ดลับการย่นระยะเวลาในการสร้างความสำเร็จในชีวิตที่ดี เพราะคนที่ ประสบความสำเร็จ ในชีวิตได้แสดงถึง การผ่านร้อนผ่านหนาว ประสบการณ์กับการต่อสู่กับปัญหาอุปสรรค การลองผิดลองถูกจนพบกับคำว่า ประสบความสำเร็จ เพื่อนที่ประสบความสำเร็จที่ดี เขามักจะแนะนำวิธี แนวคิด สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ เราเพียงแค่คัดลอกแล้วทำซ้ำเหมือนกับสิ่งที่เพื่อนทำ แต่ทำให้ดีมากขึ้นกว่าสิ่งที่คนอื่นทำ

  18. ตัดสินด้วยเหตุผล วิธีในตัดสินใจที่ดีวิธีหนึ่งคือ ก่อนที่จะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งต้องอาศัยข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อใช้เครื่องมือในการพิสูจน์ เปรียบเทียบกับหลักการ ทฤษฎี แล้วทำการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด พยายามอย่าติดสินอะไรด้วยความอคติ เพราะจะทำให้ทางที่จะก้าวไปข้างหน้าอยู่บนความเชื่อที่ผิด อย่างมงาย เพราะความงมงายเป็นรูปแบบหนึ่งของความกลัว มันเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความไม่กล้าเผชิญความจริง เหตุผลและความจริงเท่านั้นที่สามารถพิสูจน์ได้

  19. เลือกอาชีพที่สร้างชีวิต เราไม่สามารถเลือกงานที่ชอบได้ เพราะงานที่ชอบอาจจะไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น คงได้ยินคำพูดจากการเรียนและการพร่ำสอนจากโรงเรียนว่า คนที่ทำงานอย่างจริงจัง ทุ่มเท ทำงานหนักแล้วจะ ประสบความสำเร็จ ใช่แล้วครับแต่ถูกเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะการทำงานหนักอย่างเดียวไม่ทำให้คุณสำเร็จและรวยได้   ควรเลือกอาชีพที่ถูกต้องสุจริต แต่สามารถสร้างเงินเป็นสิ่งตอบแทนและสามารถสร้างชีวิตได้  โดยไม่จำเป็นต้องทำงานเพื่อแลกกับเงินไปตลอดชีวิต ควรเรียนรู้วิธีใช้เงินทำงานหนักแทนตนเอง

  20. อยู่กับเป้าหมายชัดเจน  ความชัดเจนในความฝันและเป้าหมาย จะช่วยสร้างแรงกระตุ้นและการโน้มน้าวตนเอง เพื่อต่อสู่กับสิ่งที่ต้องเผชิญและแก้ไขปัญหาเพื่อไปสู่ความสำเร็จ วิธีที่ทำให้ภาพของเป้าหมายให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นคือ จินตนาการภาพผลลัพธ์แห่งเป้าหมายนั้น แล้วทำตัวเสมือนว่าเราเป็นคนประสบความสำเร็จแล้วจริงๆ เพื่อเป็นการตอกย้ำจิตใต้สำนึก

  21. ใช้จ่ายอย่างมีสติ  ความมั่งคั่งทางการเงินคือ การสร้างทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้เป็นจำนวนเงินที่มีค่ามากกว่าค่าใช้จ่าย แต่ก่อนที่เราจะมีความมั่งคั่งได้ ควรมีวิธีใช้จ่ายเงินอย่างมีสติ การแบ่งเงินออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน เช่นกลุ่มเงินสำหรับค่าใช้จ่าย กลุ่มเงินออม กลุ่มเงินลงทุน การสร้างความมั่งคั่งควรลงทุนในทรัพย์สินให้เกิดผลตอบแทนก่อนที่จะใช้จ่าย

  22. มีความกระตือรือร้น ความกระตือรือร้นจะทำให้ตัวเราเองได้รับพลังสะท้อนกลับ จากการส่งพลังไปยังบุคคลรอบข้างให้กระตือรือร้น เป็นวิธีสร้างแรงดึงดูดแต่สิ่งที่ดีเข้าไป ให้กับจิตใต้สำนึกได้เป็นอย่างดี ความกระตือรือร้นจะกลายเป็นแรงสนับสนุนในการต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาเพื่อก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ

  23. เปิดใจ คนที่มีความเป็นตัวตนเองสูงมากจนเกินไปมักจะปิดกั้นตนเอง หยุดโอกาสที่จะเรียนรู้จากความคิดต่าง ดังนั้นคนเราต้องเปิดใจ การอยู่ในสังคม ย่อมต่างในเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม การรับฟัง การแสดงความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ย่อมเป็นการเปิดมุมมองให้เกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

  24. ยับยั้งชั่งใจ การที่เราสามารถบังคับสภาวะจิตใจของตนเองได้ จะทำให้เรารู้จักคิดก่อนที่จะลงมือกระทำการสิ่งใดๆ เพื่อไม่เกิดสิ่งเลวร้ายอันเกิดจากผลของการกระทำของตนเองนั้นถือว่าเป็นความประเสริฐ เป็นคุณสมบัติของคนดีอย่างหนึ่ง การทำตามอารมณ์ชั่วขณะมักจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แย่ๆ จากการตัดสินใจ 

  25. ความสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น การทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี จะทำให้ ประสบความสำเร็จ การทำงานเป็นทีมจะสามารถสร้างความสำเร็จได้อย่างมั่นคง เพราะการมีความคิดที่หลากหลายช่วยวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างรอบด้าน  มีความละเอียดรอบครอบในการตัดสินใจแก้ปัญหาและการต่อสู้กับอุปสรรคที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าคิดคนเดียว

  26. สร้างพลังจากความพยายาม ความเพียรพยายาม เป็นการทำงานที่ละขั้นตอน ที่ละน้อยด้วยกำลังความสามารถอย่างเต็มที่ จะเกิดความมั่นคงและยั่งยืน ความพยายามจะเป็นพลังจากจากภายใต้จิตใจ ที่ไม่สูญสลายได้ง่าย ช่วยสร้างความมั่นใจและความกล้าในการเผชิญกับปัญหาต่อๆไปได้

  27. ซื่อสัตย์สุจริตวามชื่อสัตย์สุจริตคือ วิธีสร้างชีวิตที่ ประสบความสำเร็จ ให้อยู่กับตนเองได้อย่างยาวนาน ความชื่อสัตย์จะไม่มีใครสามารถมาสร้างแทนคุณได้ นอกจากตัวของคุณเองเป็นสร้างมัน  แต่โดยส่วนใหญ่คนเรามักจะมองคนอื่นมากกว่ามองตนเอง คนนั้น คนนี้ไม่ดีจนลืมมองตัวเอง  ความไม่ชื่อสัตย์มักเกิดจากความตั้งใจผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ จนเกิดเป็นความเคยชินเช่น การขับรถฝ่าไฟแดงครั้งแรกไม่เป็นไร แล้วมักจะเกิดครั้ง2-3 ตามมา

  28. ทำตัวติดดิน อ่อนน้อมถ่อมตน คนสำเร็จโดยทั่วไปมักจะทำตัวเองให้ง่ายๆ ทำให้คนอื่นๆเข้าหาได้ง่ายแล้ว จะเกิด Connection ได้เป็นอย่างดี เปิดโอกาสสร้างความสำเร็จใหม่ๆได้มากขึ้น เพราะยังมีเรื่องอื่นอีกมากมายที่เรายังไม่มีความรู้

  29. ตัดสินใจบนข้อเท็จจริง ข้อมูลที่แท้จริงช่วยให้การตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง การศึกษาหาความรู้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะเปิดโอกาสแห่งความสำเร็จ เพราะสามารถเลือกเส้นทางและวิธีการไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้

  30. สร้างความสำเร็จในการลงทุน การลงทุนกับตนเองคือวิธีการสร้างความประสบความสำเร็จ ในชีวิต อย่ารอ อย่าพลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำให้ตนเองมีความรู้รอบด้าน โดยเฉพาะความรู้ทางด้านการเงิน  การลงทุนในความรู้เป็นการลงทุนมีต้นทุนต่ำที่สุดและให้ผลตอบแทนมากที่สุด เพราะมันจะคงอยู่และสามารถใช้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

              การขจัดสาเหตุแห่งความล้มเหลว ให้ออกจากแนวคิดการกระทำ ความเชื่อ ทัศนคติ แล้วสร้างแนวคิดและการกระทำที่เป็นด้านบวก เพื่อป้อนสิ่งดีให้กับจิตสำนึกได้รับรู้ เป็นการเพิ่มปริมาณแนวคิดด้านบวกให้มากกว่าด้านลบ จากการหัดตั้งคำถามให้กับตนเอง  ทำอย่างไรถึงจะรวยได้ ทำอย่างไรถึงมีคุณถาพชีวิตที่ดี ฯลฯ เพื่อสร้างแรงกระตุ้นและแรงพลักดัน จากพลังในจิตใจให้เกิดขึ้นกับตนเอง แล้วพัฒนาตนเองให้กลายเป็นคน ประสบความสำเร็จ ในชีวิต




บทความแนะนำ : กระบวนการสร้างชีวิต, อาณาจักรคนรวย, แนวคิดรวยๆ, ชีวิตแบบคนรวย





ต่อไปนี้ซื้อของจากคนจนให้คิดดีๆ (อ่านเรื่องนี้แล้วความคิดท่านจะเปลี่ยน)

ต่อไปนี้ซื้อของจากคนจนให้คิดดีๆ (อ่านเรื่องนี้แล้วความคิดท่านจะเปลี่ยน) คุณนาย(ผู้หญิงคนหนึ่ง) เดินเข้าไปถามชายชรา ผู้นั่งขา...